ดิว อริสรา รับ ส่งข้อความขอโทษแม่ กอล์ฟ

 

นักแสดงสาว ดิว อริสรา รับส่งข้อความขอโทษแม่ กอล์ฟ แต่โดนเมิน ยัน ไม่เสียใจ เล็งหาโอกาสขอโทษด้วยตัวเอง ฟุ้งตอนนี้ความสัมพันธ์แฮปปี้ดี แจงไม่อยากพูดถึงอีก

          เจอข่าวเม้าท์ว่า ดิว อริสรา ส่งข้อความไปขอโทษแม่กอล์ฟ แต่กลับโดนเมิน ไม่สนใจใยดี แถมยังถูกตอกกลับว่า เป็นเด็กควรเข้าหาผู้ใหญ่ไม่ใช่ส่งข้อความมางานนี้สาวดิว ก็ชี้แจงว่า จริง ๆ ก็ไม่ค่อยได้ตามข่าวเท่าไร แต่ก็ ไม่ได้รู้สึกยังไง เราก็ทำในส่วนของเราเรียบร้อยแล้ว เลยไม่อยากพูดอะไรมาก ดิว คิดว่ามันต้องค่อย ๆ ทำ แล้วมันก็เป็นการตัดสินใจของดิว ที่ตัดสินใจทำไปแล้ว ก็ไม่ได้เสียใจอะไรค่ะ

          นอกจากนี้ สาวดิว ก็ยังบอกอีกว่า “ก็ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเข้าไปหาแม่กอล์ฟค่ะ จริง ๆ ตอนนี้กอล์ฟ ก็โฟกัส เรื่องงานอยู่หลาย ๆ อย่าง มันก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเอง แล้วเราก็ไม่อยากที่จะมานั่งพูดถึงเรื่องนี้อีก ดิวว่า ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเวลาดีกว่าค่ะ ตอนนี้ดิวกับกอล์ฟ ก็แฮปปี้ดีแล้วค่ะ อยากให้จบ ๆ ไป ยิ่งพูดเดี๋ยวมันก็จะยิ่งยาวไปอีก ส่วน กอล์ฟ จะพาเข้าไปหาแม่ไหม มันก็เป็นเรื่องของอนาคตก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ”

ขอบคุณ

http://women.kapook.com/view28575.html

แพท ณปภา ยินดี ไอโซฮิม คบ บี น้ำทิพย์

สาว แพท ยินดี ไอโซฮิม คบ บี น้ำทิพย์ รับมีคนคุย แต่แค่เพื่อน ลั่นขอมุ่งขยายธุรกิจเฟรนไชส์ ยันไม่คิดทิ้งงานละคร

          หลังจากโสดสนิทจากไฮโซ ฮิม ไม่นาน ช่วงนี้สาว แพท ณปภา จะทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้ธุรกิจความสวยความงาม ที่เจ้าตัวทุ่มงบลงทุนกับเพื่อนในวงการ ในงาน มหกรรมแฟรนไชส์ สร้างอาชีพครั้งที่ 6 สาวแพท ได้มีโอกาสมาร่วมแจกรางวัลให้ผู้โชคดี พร้อมเผยเกี่ยวกับธุรกิจของตน นอกจากนี้ สาวแพท ยังแอบเผยเรื่องหัวใจ พร้อมยินดีกับอดีตคนรักเก่า ว่า

          แพท ดีใจกับเค้าด้วยค่ะ ที่ได้เจอคนดี ๆ ตั้งแต่เลิกคุยกันมา 6 เดือน ก็ไม่เจอไม่ได้ติดต่อกันเลย ช่วงแรกมีเสียใจบ้าง แต่พอผ่าน 3 เดือน ก็เริ่มโอเคแล้ว จนมาถึงตอนนี้สบายมาก ไม่ได้คิดอะไรแล้ว พร้อมเปิดใจตลอด แต่ไม่มีใครเข้ามา จะมีก็เข้ามาแบบเพื่อนมากกว่า ส่วนสเปกนั้นของแค่เป็นผู้ใหญ่กว่าก็พอ

          ส่วนเรื่องธุรกิจตอนนี้ เจ้าตัวกล่าวว่า กำลังไปได้สวย แถมเตรียมเล็งทำเลเปิดสาขาอื่น ๆ ตามมาแน่นอน งานนี้ สาวแพท การันตีว่า ถึงร้านจะดูหรูหรา แต่ราคากลางมาก บางทีอาจถูกกว่าที่อื่นด้วยค่ะ แถมยังรับรองคุณภาพ เพราะตนได้ใช้บริการเองด้วย แต่ยังไงสาวแพท ก็ไม่คิดทิ้งวงการละครแน่นอน เพราะสาวแพท มีละครจ่อคิวออนแอร์ อีกหลายเรื่องเลยค่ะ

เผยขั้นตอนงานพระราชพิธีพระศพ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ

สำนักพระราชวัง เปิดเผยรายละเอียด ในการจัดพระราชพิธีพระศพ เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ ประดิษฐานพระโกศ พระแท่นแว่นฟ้าทอง แบบพระราชพิธีศพของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ แต่ลดขั้นตอนบางส่วน

          นายรัตนาวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง เปิดเผยถึงงานพระราชพิธีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ว่า ในส่วนของรายละเอียดของงานนั้นเหมือนในการประกอบพระราชพิธีจะเหมือนกับงานพระราชพิธีของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทุกประการ แต่มีการลดขั้นตอนบางส่วนออก อาทิ การให้ประชาชนเข้าสักการะพระฉายาลักษณ์ ที่ศาลาสหทัยสมาคม ทางสำนักพระราชวัง จะเปลี่ยนเป็นให้ประชาชน ที่ต้องการร่วมรับฟังพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ สามารถเดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าว ได้ที่บริเวณพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

          นายรัตนาวุธ  กล่าวเพิ่มเติมว่า 7 วันแรกของการประกอบพระราชพิธีนี้ ยังคงเป็นพิธีที่พระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จมาเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นประชาชนจึงยังไม่สามารถขึ้นสักการะพระศพได้ แต่หลังจากครบกำหนด 7 วันแล้ว ทางสำนักพระราชวังจะขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนมาขออนุญาตเป็นเจ้าภาพในพระราชพิธีนี้ได้ทุกวันพุธ จนครบกำหนดพระราชพิธี 100 วัน

          โดยในส่วนพระราชพิธีที่จัดขึ้นตามวันครบรอบวันสำคัญนั้น  นายรัตนาวุธ กล่าวว่า จะมีเฉพาะพระราชพิธีครบรอบ 7 วัน 50 วัน และ 100 วันเท่านั้น และในส่วนของทูตานุทูต ตามประเพณีจะต้องมีพระบรมวงศานุวงศ์ต่างประเทศเป็นผู้มอบหมาย ให้ผู้แทนมาลงแสดงความไว้อาลัย อย่างไรก็ตาม ทางสำนักราชเลขาธิการ จะประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้จัดห้องรับรองให้ทูตานุทูตมาลงนามที่กระทรวงการต่างประเทศ

          พร้อมกันนี้ นายรัตนาวุธ ได้กล่าวถึงงานวันที่ 12 สิงหาคมว่า ไม่น่าจะมีปัญหาหากจะจัดพิธีเฉลิมฉลองกันปกติ เพราะตามพระราชประเพณีนั้น สามารถที่จะเปลี่ยบให้เป็นวันออกทุกข์ได้ ส่วนเรื่องการจัดสร้างพระเมรุ ต้องรอรัฐบาลตั้งคณะกรรมการดำเนินการก่อน จากนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของกรมศิลปากรว่า จะสามารถสร้างได้ทันกำหนดหรือไม่ แต่ถ้าหากไม่ทันก็ต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2555 ในช่วงเดือนเมษายน เพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพอากาศฟ้าฝน

           เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สิ้นพระชนม์แล้ว พระชันษา 85 พรรษา โปรดเกล้าฯ ให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพได้วันพฤหัสบดีนี้ เวลา 16.00 น. ณ ศาลาสหทัยสมาคม

           เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาของวันที่ 27 กรกฎาคม ทางสำนักพระราชวังได้ออกประกาศแจ้งว่า สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ได้สิ้นพระชนม์แล้วด้วยพระอาการติดเชื้อในพระกระแสโลหิต เมื่อเวลา 16.37 น. ของวันที่ 27 กรกฎาคม ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมพระชันษา 85 พรรษา

          โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ประดิษฐาน พระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าทูลละอองธุลีพระบาทในราชสำนักไว้ทุกข์ถวายมีกำหนด 100 วัน ตั้งแต่วันสิ้นพระชนม์เป็นต้นไป

          อนึ่ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระศพหน้าพระฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 13 นาฬิกา ถึงเวลา 16 นาฬิกา วันพฤหัสบดี ที่ 28 กรกฎาคม 2554

          ทั้งนี้ เมื่อช่วง 18 นาฬิกาของวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชพิธีสรงน้ำพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง จากนั้นทรงเสด็จพระราชดำเนินตามพระโกศพระศพ เพื่อนำไปประดิษฐสถานยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

             
          สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเป็นพระราชธิดาองค์เดียวในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 กับพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี (พระนามเดิม เครือแก้ว อภัยวงศ์ ธิดาพระยาอภัยภูเบศร) ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2468 ณ พระที่นั่งเทพสถานพิลาส ในหมู่พระมหามณเฑียร พระบรมมหาราชวัง

          แต่หลังจากประสูติได้เพียงหนึ่งวัน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้เสด็จสวรรคตอย่างไม่คาดคิด ทั้งที่ทรงเตรียมการรับขวัญพระหน่อพระองค์แรกอย่างจดจ่อ ดังเช่นพระราชนิพนธ์บทกล่อมบรรทมสำหรับสมโภชเดือนพระราชกุมารประกอบเพลงปลาทองไว้ล่วงหน้า และทรงปรับปรุงพระราชนิพนธ์ละครรำเรื่องพระเกียรติรถ ตอนที่ 1 ให้เป็นละครดึกดำบรรพ์ เพื่อที่จะได้ทรงจัดแสดงในพระราชพิธีสมโภชเดือนของพระหน่อ

          ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สืบต่อ จึงทรงรับดูแลพระราชธิดาของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเลือกพระนามพระราชทานไว้ 3 พระนาม คือ

          สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชอรสา สิริโสภาพัณณวดี
          สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนจุฬิน สิริโสภิณพัณณวดี
          สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี

          พร้อมกันนี้ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ยังทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกคำนำพระนามว่า  “สมเด็จพระเจ้าภาติกาเธอ” เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ตามพระฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ซึ่งหมายถึงหลานที่เป็นลูกเกิดแต่พี่ชาย จวบจนสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ขึ้นครองราชย์ ได้ทรงออกคำนำหน้าพระนามให้เป็น “สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ” มาจนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ให้คงคำนำหน้าพระนามของสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ ไว้ตามเดิม เนื่องจากคำว่า “สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ” แปลความหมายได้ทั้งพระเจ้าพี่นางเธอ และพระเจ้าน้องนางเธอ

          ครั้งทรงพระเยาว์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงประทับที่ตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี ในพระบรมมหาราชวัง ก่อนที่จะทรงย้ายมาประทับ ณ พระตำหนักสวนหงษ์ พระราชวังดุสิต ซึ่งมีอาณาเขตกว้างขวางกว่า ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นห่วงว่า สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะไม่มีสถานที่ผ่อนคลายอิริยาบถ แต่หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงย้ายที่ประทับอยู่ตลอดเวลา เพราะมีเหตุการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนกระทั่งพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี โปรดให้สร้างตำหนักใหม่ขึ้นเป็นส่วนพระองค์บนที่ดินหัวมุมถนนราชสีมาตัดกับถนนสุโขทัย ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ในอดีต และประทานนามว่า สวนรื่นฤดี

          เมื่อเจริญวัย สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้เสด็จไปทรงพระอักษร ณ โรงเรียนราชินี แต่ได้ทรงลาออกขณะที่ทรงพระอักษรในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อทรงพระอักษรต่อ ณ สวนรื่นฤดี โดยพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ได้ทรงจ้างครูมาถวายพระอักษรวิชาภาษาอังกฤษ และวิชาวรรณคดีไทย รวมทั้งโปรดให้ศึกษาพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ

          ด้วยความที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงมีพระพลานามัยไม่สมบูรณ์นัก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 จึงมีพระราชดำริให้สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ เสด็จไปประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ และรักษาพระองค์ ณ ต่างประเทศ โดยในปี พ.ศ.2480 พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ได้ทรงนำเสด็จสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ไปประทับรักษาพระพลานามัย ณ ประเทศอังกฤษ และให้ทรงพระอักษรวิชาภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และเปียโนกับอาจารย์ชาวต่างประเทศ ซึ่งพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในทางเปียโนเป็นอย่างยิ่ง และยังโปรดการลีลาศ ขับร้องเพลงไทย และสากล

          นอกจากนี้ พระจริยวัตรส่วนพระองค์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ก็ทรงงดงาม ทรงมีพระอุปนิสัยเคร่งครัด ตรงต่อเวลา แม้จะเจริญพรรษาที่ต่างประเทศ แต่ก็ทรงโปรดความเรียบง่าย ไม่ถือพระองค์ และนิยมความเป็นไทย ทรงโปรดเครื่องใช้รวมถึงฉลองพระองค์ที่ผลิตในประเทศไทย และทรงรับสั่งภาษาไทยอย่างถูกต้องชัดเจนเสมอ อีกทั้งยังทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง

          จากนั้นในช่วงปี พ.ศ.2500 สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้เสด็จนิวัตประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ทรงพระกรุณาโปรดให้สร้างวังในซอยสุขุมวิท 38 จากนั้นได้เสด็จกลับประเทศอังกฤษ และเมื่อพระพลานามัยดีขึ้น กอปรกับสภาวการณ์ในประเทศไทยกลับสู่ปกติแล้ว สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จึงได้เสด็จกลับมาประเทศไทยเป็นการถาวรเมื่อปี พ.ศ.2502 โดยทรงประทับ ณ วังรื่นฤดี เลขที่ 69 ซอยสุขุมวิท 38 กรุงเทพมหานคร ตราบกระทั่งปัจจุบัน

          ต่อมา ด้วยพระชันษาที่มากขึ้น ทำให้สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ประชวรด้วยอาการตามพระชันษา คณะแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชจึงได้เฝ้าระวังพระอาการอย่างใกล้ชิด ในเวลาต่อมา สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ทรงเริ่มมีพระอาการเส้นพระโลหิตอุดตัน ทำให้ทรงขยับพระวรกายด้านซ้ายยากขึ้น คณะแพทย์จึงได้ถวายพระโอสถ และมีนางพยาบาลถวายการดูแล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพระองค์จะทรงรับสั่งได้น้อยลง แต่ก็ทรงเข้าพระทัยทุกอย่างเป็นอย่างดีด้วยการพยักพระพักตร์

          สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเข้าประทับรักษาตัวในโรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 โดยมีคณะแพทย์ถวายการรักษาอย่างสุดความสามารถ แต่อาการพระประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ ก่อนที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จะได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 16 นาฬิกา 37 นาที ของวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 สิริรวมพระชันษา 85 ปี

พระกรณียกิจที่สำคัญ

          นับตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ได้เสด็จนิวัตประเทศไทย ก็ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจ เพื่อแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่เสมอ ทั้งการเสด็จออกเยี่ยมเยียนราษฎร พระราชทานพระอนุเคราะห์แก่ผู้ยากไร้ อีกทั้งยังทรงรับสถาบันและองค์กรต่าง ๆ ไว้ในพระอุปถัมภ์จำนวนกว่า 30 แห่ง รวมทั้งในส่วนที่สืบสานต่อจากพระราชบิดา ส่วนของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และโดยส่วนพระองค์เองในหลาย ๆ ด้าน เช่น

          ด้านการศึกษา

          ทรงอุปถัมภ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร, วชิราวุธวิทยาลัย, โรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์, โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย, โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย, โรงเรียนราชินี, โรงเรียนราชินีบน, โรงเรียนราชินีบูรณะ, โรงเรียนวิเชียรมาตุ, โรงเรียนสภาราชินี, โรงเรียนศรียานุสรณ์, โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์, วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงเรียนสายน้ำผึ้ง, โรงเรียนศรีอยุธยา, โรงเรียนเพชรรัชต์, โรงเรียนเพชรรัตนราชสุดา, โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์เพชราวุธวิทยา, โรงเรียนสยามธุรกิจ, สถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ, โรงเรียนพณิชยการสยาม ฯลฯ

          ด้านการสาธารณสุข

          ทรงอุปถัมภ์วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, สภากาชาดไทย, ศิริราชพยาบาล ฯลฯ

          ด้านกิจการลูกเสือ-เนตรนารี

          ทรงอุปถัมภ์คณะลูกเสือแห่งชาติ, ค่ายลูกเสือเพชรรัชต์, สโมสรลูกเสือกรุงเทพ, สมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแห่งประเทศไทย, สโมสรเนตรนารีเพชราวุธ ฯลฯ

          ด้านกิจการอาสาสมัครรักษาดินแดน

          ทรงอุปถัมภ์สมาคมศิษย์เก่านักศึกษาวิชาทหาร, สมาคมสตรีอาสาสาสมัครรักษาดินแดน กรุงเทพมหานคร, สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทย, สมาคมสตรีอาสาสมัครแห่งประเทศไทย, สหพันธ์สมาคมสตรีอาสาสมัครรักษาดินแดนแห่งประเทศไทย ฯลฯ

          ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ยังทรงเป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระราชทานกำเนิด มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งยังทรงเป็นผู้นำในการอนุรักษ์มรดกสถาปัตยกรรมในรัชกาลที่ 6 เช่น พระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน จังหวัดเพชรบุรี และ พระราชวังพญาไท ในบริเวณโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

          นอกจากนี้ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ ยังทรงพระราชทุนที่ทรงก่อตั้ง และทุนในพระนามอีกมายมาย ได้แก่

          ทุนจุฬาเพชรรัตน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          ทุนเพชรรัตน มหาวิทยาลัยศิลปากร

          ทุนเพชรรัตน สำนักงานบรรเทาทุกข์ สภากาชาดไทย

          ทุนเพชรรัตนการุญ ศิริราชมูลนิธิ

          ทุนเพชรรัตนการุณ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 15

          ทุนเพชรรัตนอุปถัมภ์ โรงเรียนสายน้ำผึ้ง

          ทุนสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์

          ทุนสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย

          ทุนสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ นิธิวัดราชบพิธ

          ทุนสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ มูลนิธิภูมิพโลภิกขุ

          ทุนสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โรงเรียนราชินี

          ทุนสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โสสะมูลนิธิแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์

          ทุนสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ สำหรับพระราชทานแก่นักเรียนและนักศึกษาในโรงเรียนราชินี โรงเรียนราชินีบน วิทยาลัยอาชีวศึกษาเสาวภา โรงเรียนราชินีบูรณะ จังหวัดนครปฐม โรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง โรงเรียนสภาราชินี จังหวัดตรัง โรงเรียนจอมสุรางค์อุปถัมภ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงเรียนศรียานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาลัยพยาบาล สภากาชาดไทย

          แม้ว่าภายหลังสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอฯ จะมีพระชันษามากขึ้น ไม่สามารถเสด็จออกไปปฏิบัติพระกรณียกิจนอกสถานที่ได้บ่อยนัก แต่พระองค์ก็พระราชทานพระวโรกาสให้ผู้แทนองค์กรต่าง ๆ เฝ้ากราบทูลรายงานความก้าวหน้าโครงการต่าง ๆ พร้อมทั้งรับพระราชทานพระกรุณาโดยประการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ด้วยพระหฤทัยแน่วแน่ที่จะทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจ ดังที่มีพระดำรัสไว้ในงานฉลองพระชนมายุ 61 พรรษา เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2529 ณ วชิราวุธวิทยาลัย ความตอนหนึ่งว่า

          “ฉันขอกล่าวต่อท่านทั้งปวงว่า จะพยายามบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง ด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเกิดและต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็นพระประมุขของชาติ ทั้งจะได้รักษาเกียรติศักดิ์แห่งความเป็นราชนารีในมหาจักรีบรมราชวงศ์ไว้ชั่วชีวิต”

         จากพระดำรัสประโยคนี้ กอปรกับพระกรณียกิจที่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงประกอบไว้มากมาย ได้สะท้อนชัดเจนว่า สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเป็นราชนารีอย่างแท้จริง และทรงประกอบพระกรณียกิจที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทย จวบจนวันที่พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ร้อยใจไทย , ครอบครัวข่าว 3

ขอบคุณ

kapook.com

นุ่น วรนุช ราศีเศรษฐินีระยิบ ทุ่มเงินล้านเปิดร้านอาหาร

ราศีเศรษฐินีจับระยิบระยับเชียวสำหรับคุณนาย นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่ล่าสุดเมื่อวาน (28 ก.ค. 2554) ที่ผ่านมาได้ฤกษ์ดีเปิดร้านอาหาร แสนแซ่บ สไตล์โมเดิร์น สาขาที่ 2 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ไม่เพียงแต่หันเอาดีด้านธุรกิจอาหาร แต่เจ้าตัวยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกเช่นกัน แว่วว่าโครงการคอนโดล้านร้อย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ถึงอย่างไรสาวนุ่นก็ยืนยันให้แฟนๆได้ใจชื้นว่าไม่ทิ้งงานแสดงแน่นอน เพราะถือว่าเป็นงานหลักของตนเช่นกัน

“เปิดสาขาที่ 2 นี้มาได้ 2 อาทิตย์แล้วแต่วันนี้เป็นงานเปิดอย่างเป็นทางการของพารากอนด้วย ช่วง 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาลูกค้าก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ สิ่งใหม่ๆก็จะมีเมนูเพิ่มเติมเป็น ส้มตำไก่แซ่บ,มีปลาร้าสับ,สเต็กเนื้อราดน้ำ (ชิมเองทั้งหมดไหม) นุ่นไม่ได้ชิมเองทั้งหมดเพราะตัวนุ่นเองไม่ได้ทานเนื้อ ก็จะให้หุ้นส่วนท่านอื่น ๆ มาชิมแทน ส่วนคุณต๊อดก็ชอบส้มตำปลาร้า,ปลาร้าสับ ข้อสำคัญคือที่นี่ 6 โต๊ะด้านในสามารถกดเลือดเมนูอาหารแล้วสั่งไปที่ครัวเองได้เลย และเดือนสิงหาคมก็จะมีเมนูเฉพาะด้วย”

ต๊อดมีส่วนร่วมด้วยไหม
“มีค่ะ ต้องบอกว่าทุกอย่างที่จะทำ เมื่อเวลาที่เราจะพัฒนามาเป็นอีกสาขานึงก็ต้องมีการประชุม”

ลงทุนเยอะไหม
“หลักล้าน กว่าจะคืนทุนก็ต้องใช้เวลา เราก็ต้องทำสาขาอื่นด้วยและในเดือนหน้าก็จะมีเปิดอีกสาขานึงที่พระราม 9 และจะมีสาขาที่ 4 ที่เทอร์มินอล 21 แถวอโศกในปลายปีนี้ด้วย”

เหมือนตอนนี้หันทำธุรกิจแบบเต็มตัวแล้ว เพราะคอนโดก็เพิ่งเปิดตัวไป
“งานหลักของนุ่นคืองานแสดงละคร แต่เรื่องธุรกิจนุ่นไม่ได้คนเดียวมีคุณต๊อดและคนอื่น ๆ ด้วย ฉะนั้นคนที่จะดูแลหลัก ๆ เลยคือหุ้นส่วนอีกคน”

“ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เริ่มต้นอะไรใหม่ๆกับชีวิตมากกว่า เราก็โตแล้ว ในวงการบันเทิงนุ่นก็ไม่รู้ว่าจะได้เล่นละครนานแค่ไหน ฉะนั้นเราก็ต้องหาธุรกิจอื่นๆที่จะมารองรับ นุ่นเองถึงแม้จะแต่งงานแล้วก็ยังมีครอบครัว พี่ น้อง ที่ต้องดูแล”

เล็งจะทำธุรกิจอื่นอีกไหม
“เอาแค่นี้ก่อน ถ้าธุรกิจอื่นก็คงต้องเป็นอนาคตค่ะ”

ติ๊ก เจษฏาภรณ์ โดนแจ้งจับบุกรุกป่า ภูคิ้ง ถ่ายเนวิเกเตอร์

กรมอุทยานแจ้งจับ ติ๊ก เจษฏาภรณ์ ผลดี รุกป่า ภูคิ้ง หลังเข้าไปถ่ายทำรายการเนวิเกเตอร์ ตำรวจจ่อเรียกสอบ 

หลังจากพระเอกสุดหล่อ ติ๊ก เจษฏาภรณ์ ผลดี เจ้าของรายการเนวิเกเตอร์ ที่ผลิตออกออกกาศทางช่อง 3 ได้ทำเรื่องขออนุญาตทางการเข้าไปถ่ายทำรายการในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เพื่อนำมาออกอากาศต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่ารายการดังกล่าวต้องถูกระงับเนื่องจากทางรายการผิดเงื่อนไขข้อตกลงเข้่าไปถ่ายทำในจุดที่ทางการห้าม โดยเฉพาะ ภูคิ้ง เพราะพื้นที่นี้เป็นจุดเปราะบาง 

ด้าน  ดร.กาญจนา นิตยะ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว (ทุ่งกะมัง) อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เปิดถึงสาเหตุที่ต้องขอระงับการออกอากาศของรายการเนวิเกเตอร์ เนื่องจากได้ละเมิดข้อตกลง

สืบเนื่องจาก นายติ๊ก เจษฏาภรณ์ ได้ทำเรื่องติดต่อขออนุญาตเข้ามาถ่ายทำรายการในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีโซนที่ให้ถ่ายทำได้ และจุดไหนไม่อนุญาต ใหุ้ถ่ายทำ แต่ทางรายการเนวิเกเตอร์ได้เข้าไปถ่ายทำในโซนที่หวงห้ามคือ ภูคิ้ง ด้านอ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ซึ่ง พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 ไม่สามารถให้ใครเข้าไปได้ แม้กระทั่งนักท่องเที่ยวหรือทำการใด ๆ ซึ่งเป็นข้อตกลงทางการได้แจ้งไว้ก่อน ทางรายการไม่สามารถอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ต้องมีโทษทางวินัยร้ายแรงเช่นกันที่ปล่อยให้บุคคลอื่นเข้าไปในเขตหวงห้าม ฉะนั้นเราต้องขอระงับการออกอากาศดังกล่าว

ท้องผูกนำสิวมาให้

ถ้าเราท้องผูกก็จะทำให้เป็นสิว ทำให้ลองหาข้อมูลดูว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า

อาการท้องผูกนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวหรือไม่? อย่างไร?

คุณจะรวยแค่ไหน หากว่าได้รับเงินทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องแปลก ๆ เกี่ยวกับการรักษาสิว – - อาการท้องผูกกับเรื่องสิวนั้นรวมอยู่ในรายการเรื่องแปลกเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า? ในขณะที่การศึกษาวิจัยระหว่างสิวและสุขภาพนั้นมีค่อนข้างน้อย การวิจัยทางการแพทย์ก็ให้การสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่อาจเป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น การถ่ายอุจจาระเป็นประจำจะช่วยทำให้ฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการมีผิวพรรณสดใส

มีหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าท้องผูกมีผลกระทบต่อการเกิดสิวอย่างชัดเจน แค่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีการทำสำรวจเกี่ยวกับเภสัชวิทยาและการบำบัดรักษาโรค ได้ทำการสัมภาษณ์คนกว่า 500 คน และในกลุ่มของผู้ที่เข้าทำการสำรวจกลุ่มนี้ อย่างน้อย 96% ของกลุ่มต้องใช้ยาระบาย เช่นเดียวกับท้องผูก, สิวนั้นสร้างปัญหาให้กับวัยรุ่น และกลับมาเป็นได้อีกในช่วงวัยผู้ใหญ่

ความคาบเกี่ยวของสิวและท้องผูก

แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากที่มีปัญหาจากการท้องผูกกับสิว แต่ก็ไม่เป็นเหตุที่จะเกี่ยวเนื่องกันระหว่างสองประเด็นนี้ อย่างไรก็ดี American Dietetic Association นั้นเห็นว่าเกี่ยวข้องกัน
สืบเนื่องจากความเห็นของ American Dietetic Association นั้น อาหารที่มีไฟเบอร์สูงจะเป็นอาหารที่ป้องกันการเกิดภาวะท้องผูก, ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดต่ำ และช่วยรักษาระดับกลูโคสและอินซูลินในเลือดให้เป็นปกติ

คอเลสเตอรอล & สิว

ยิ่งไปกว่านั้น, การศึกษาวิจัยยังโยงไปถึงการต่อต้านอินซูลินและคอเลสเตอรอลที่จะทำให้เกิดสิว นิตยสารของแพทย์ผิวหนังได้ชี้แจงให้เห็นว่า การไหลเวียนของคอเลสเตอรอลนั้นสามารถทำให้ผิวสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจนได้
แอนโดรเจนนั้นเป็นตัวหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากไปเพิ่มปริมาณการหลั่งน้ำมันบนผิว หากมีการขับถ่ายอุจจาระเป็นประจำทุกวันรูขุมขนและต่อมไขมันก็จะไม่สะสมคอเลสเตอรอลที่ทำให้เกิดสิว เอาไว้บนผิวหน้า

Reference

- Americanchronicle.com

แปลและเรียบเรียงโดย Acnethai.com

แฟชั่นเทรนด์สีฟ้ามาแรง

ฤดูฝนใส่สีอะไรถึงจะสวย  มาแรงและน่ามอง

สำหรับสาวโสดช่วงนี้เป็นฤดูเหงา..เอ๊ะไม่ใช่..ฤดูฝนมาสักพักแล้วนะคะ แค่บรรยากาศก็พาเหงามากพอแล้ว อย่าพาจิตใจซึมเศร้า รีบมาอัพตัวเองด้วยการแต่งสวยๆกันดีกว่า เทรนด์ฤดูฝนปีนี้แนะนำสีฟ้าและสีน้ำเงินคะ เก็บเสื้อผ้าสีดำเข้าตู้เสื้อผ้าไปก่อนได้เลยนะคะ เพราะวันนี้เกร็ดดี้มีเสื้อผ้าเก๋ๆกับแอคเซสเซอรี่เริ่ดๆ ที่จะทำให้สาวๆจะเชิด จนหนุ่มๆหันหลังมองแทบไม่ทันกัน ยิ่งถ้าคนรักสีฟ้าและสีน้ำเงินด้วยละ รับประกันว่าถูกใจแน่นอนค๊ะ !!

เริ่มต้นกับชุดลายเสือผ้าชีฟองสบายๆที่เปลี่ยนจากสีเหลือง-ดำเป็นเหลือง-น้ำเงิน บวกกับกระเป๋ากำมะหยี่สีน้ำเงินสด โอ้โห้ ช่างเป็นชุดที่เข้ากันซะจริงๆ หรือถ้าไปงานทางการแนะนำให้ใส่ชุดสูทสีพื้นอย่างในรูปเป็นสีเขียวเข้มกับกระเป๋าสีน้ำเงิน ก็ได้ลุคผู้บริหารเลยคะ

ถ้าเป็นกระเป๋าหนังลายงู ไม่ว่าจะฤดูไหน ยุคไหนก็ไม่มีตกเทรนด์ เรียกได้ว่าใส่ได้ตั้งแต่รุ่นสาวถึงรุ่นแม่ เพราะลายงูจะช่วยทำให้คุณดูสง่า ยิ่งเวลาสาวๆถือไปทำงานหรือออกงานที่เป็นทางการ คุณจะดูดีไม่แพ้ใครเลยคะ

มาต่อกับสิ่งที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งของการแต่งสวยของคุณสาวๆ รองเท้าส้นสูงนั้นเอง การใส่ส้นสูงจะช่วยให้หุ่นของสาวๆดูเพรียวขึ้น ควรเลือกส้นสูงที่คิดว่าคุณใส่แล้วเดินได้อย่างมั่นใจ อย่างส้นเข็มเปรี้ยวจิ๊ดก็ถือว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้คุณดูสูง ขาเรียว ยิ่งถ้าคุณขาใหญ่แล้วใส่ส้นตึกด้วยละ จะเน้นให้ขาดูใหญ่ขึ้นไปอีกนะคะ

ปิดท้ายกับรองเท้าส้นเตี้ย มีลูกปัดและลายฉลุเพิ่มความหวาน รองเท้าส้นเตี้ยถือว่าเป็นอีกแบบที่สาวๆชื่นชอบ ถึงแม้จะไม่ได้เพิ่มความสูง แต่ก็ช่วยให้คุณไม่เมื่อยขานะคะ เพียงแค่ใส่กับเดรสสั้นหรือจะเป็นเดรสยาว คุณก็ดูเป็นสาวหวานในวันสบายๆแล้วคะ

สำหรับเรื่องราวดีๆที่เกร็ดดี้นำมาฝากไว้ให้ดูเป็นแนวทางนะคะ การแต่งตัวที่ดีไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์เนมทุกชิ้นก็ได้ นำมาดัดแปรง ผสมกับของที่มีอยู่แล้ว ปรับให้เข้ากับคุณเอง ยังไงสีฟ้าและสีน้ำเงินก็สามารถช่วยให้สาวๆดูสดใสอยู่แล้วไม่ต้องห่วง … ขอให้สวยในฤดูฝนกันทุกคนค่ะ

เรื่องโดย : เกร็ดดี้

ภาพประกอบจาก : http://xy.learning.club.sohu.com

เรียบเรียงโดย  sanook.com

น้ำหอม คุณใช้น้ำหอม ผิดวิธีอยู่หรือเปล่า?

สิ่งที่ต้องระวังมากๆ ก็คือ เสื้อผ้า และเครื่องประดับค่ะ ถ้าคุณสาวๆ ใส่เสื้อผ้าแล้ว การฉีดน้ำหอม อาจจะทิ้งคราบหรือรอยด่างของน้ำหอมเอาไว้ เครื่องประดับที่เช่นเดียวกันค่ะ เพราะแอลกอฮอล์ในน้ำหอมนั่นเอง ทางที่ดีควรใส่น้ำหอม ตอนอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่รูขุมขนกำลังเปิด และฉีดน้ำหอมที่ระยะห่าง 6 นิ้ว ขึ้นไปนะคะ (บางแห่งบอกให้ห่างถึง 30 ซม. เลยค่ะ)

…….คำนึงถึงกลิ่นด้วยนะคะ ถ้ากลิ่นที่ฉุดมาก ก็ให้ฉีดน้อยๆ ถ้าเป็นจำพวก โคโลญจน์ หรือ ทอยเล็ตต์ อาจจะใส่ซ้ำได้หลังจาก 4-6 ชั่วโมงไปแล้วค่ะ แต่ห้ามเด็ดขาดนะคะ สำหรับการใส่น้ำหอมหลายๆ กลิ่น ในวันเดียว โดยที่คุณยังไม่ได้อาบน้ำเอากลิ่นน้ำหอมเก่าออกก่อน

…….อากาศที่เย็น ทำให้กลิ่นของน้ำหอมระเหย หรือจางไปเร็วกว่าปกติ ควรใส่น้ำหอมมากขึ้นอีกหน่อย ให้กลิ่นติดทน ค่ะ นี่รวมไปถึงคุณสาวๆ ที่มีผิวแห้งด้วยนะคะ เพราะผิวไม่มีน้ำมันที่ทำให้เกลิ่นติดทนค่ะ

……เห็นมั้ยละคะว่า การเลือกซื้อ และการใช้ไม่ยากเลย สาวๆ คนไหนที่ยังเลือกซื้อ และใช้น้ำหอมอย่างผิดวิธีอยู่ละก็ อ่านจบแล้ว รีบปรับเปลี่ยนเลยนะคะ

เอ๊ะ-ศศิกานต์ โต้กิ๊กไฮโซแม็ค นักธุรกิจไวน์ แค่เพื่อน

เอ๊ะ-ศศิกานต์ โต้กิ๊กไฮโซแม็ค นักธุรกิจไวน์ แจงสัมพันธ์แค่เพื่อนที่ติดต่อทำการค้า เห็นใจอีกฝ่ายถูกโยงข่าว โอดไปไหนกับใครถูกจับคู่เป็นแฟนตลอด เผยเจมส์-เรืองศักดิ์ อยากให้เปิดใจรับคนใหม่แต่แอบห่วงกลัวถูกหนุ่มหลอก…

งานเข้าเต็มๆสำหรับนักแสดง-นางแบบสาว  เอ๊ะ-ศศิกานต์ อภิชาตวรศิลป์ หลังมีข่าวใน นสพ.บันเทิงรายวันฉบับหนึ่ง ว่าสาว เอ๊ะ กำลังซุ่มคบหาดูใจกับไฮโซหนุ่มนามว่า “แม็ค” นักธุรกิจนำเข้าไวน์ บริษัท อิเตอเรเซีย จำกัด มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทั้งที่สาว เอ๊ะ เพิ่งจูงมือนักร้องหนุ่มข้าวมันไก่ เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ แถลงข่าวประกาศรักร้างไปไม่ถึงอาทิตย์  เจอเม้าท์ซะแบบนี้สาว เอ๊ะ เลยออกโรงแจงถึงความสัมพันธ์กับหนุ่ม แม็ค ทันที ในงาน “Siam Paragon Food Passage on 4th” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งสาว เอ๊ะ มาเปิดร้านอาหารเกาหลี “ทูดาริ” ด้วย ว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ส่วนหนุ่ม เจมส์ ก็มีถามถึงข่าวบ้างแต่ไม่ได้ซีเรียสอะไร พร้อมทั้งบอกอีกว่าอยากให้สาว เอ๊ะ เปิดใจหากมีใครเข้ามา แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าสาว เอ๊ะ จะถูกหนุ่มหลอกเหมือนกัน

มีข่าวกิ๊กกับไฮโซแม็ค? “เอ๊ะจะบอกว่าเขาซวยมาก (หัวเราะ) จริงๆเราทำธุรกิจแล้วเราไปซื้อไวน์จากเขา ในแวดวงของเพื่อนๆก็รู้จักกัน เพราะฉะนั้นอาจจะมีคนเห็นว่าเราอยู่ในสถานที่เดียวกัน หรือเขาเข้ามาทานข้าวที่ทูดาริ เอ๊ะว่ามีโอกาสคนเห็นแล้วเอาไปพูด แต่จริงๆไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” ตัวเขาว่าไงบ้าง? “เขาก็เป็นนักธุรกิจนะคะ เขาคงไม่ได้อยากอยู่ในข่าวบันเทิง เอ๊ะก็เกรงใจเขานะคะ คือเรื่องของเอ๊ะ เอ๊ะเข้าใจได้เพราะเราเป็นคนสาธารณะ จะลงข่าวอะไรเอ๊ะโอเค แต่ว่าอันนี้เป็นคนที่เขาไม่เกี่ยวข้อง โดนลากเข้ามาด้วย ก็เห็นใจเขาค่ะ” แต่เขาก็เป็นข่าวกับเราแล้ว? “เขาเป็นคนส่งข่าวมาให้ดูค่ะ เขาบอกว่าเพื่อนเขาส่งมาให้ดูอีกที มันก็คงสร้างความเครียดให้กับคนที่ทำธุรกิจเหมือนกัน ก็รู้สึกหนักใจนิดหน่อยค่ะ เพราะเรื่องการทำธุรกิจมันเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ พอมันมามีข่าวอยู่ในหน้าบันเทิงมันคงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกค่ะ” เขามีแนวโน้มจีบเรามั้ย? “เอ๊ะว่าเรา 2 คนอยู่ในแวดวงที่ใกล้เคียงกัน บางครั้งกลุ่มเพื่อนเรากับกลุ่มเพื่อนเขาก็รู้จักกันเลยอาจจะไปในที่ที่ เดียวกันบ้างแล้วคนก็อาจจะเม้าท์กันไป ไม่มีหรอกค่ะ  เขาจะซวยเอานะ เขามีฟงมีแฟนเขาอยู่เดี๋ยวเขาจะมาทะเลาะกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าคนนี้ไม่ใช่ชัวร์”

เพื่อนผู้ชายที่เดินกับเราทุกวันนี้กลัวๆไหม? “ทุกวันนี้เวลาไปไหนกับใครก็โดนเล็งตลอด ล่าสุดไปเดินกับคนเกาหลีซึ่งเป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ที่อยู่เมืองไทย ก็มีคนบอกว่าอุ๊ย เห็นไปเดินกับผู้ชาย หรือเอ๊ะมีแฟนเกาหลี หรือไปกับเพื่อนก็โดนหมดค่ะ ก็เข้าใจแหละว่าเป็นที่จับตามองในขณะนี้นะคะ แต่จะบอกว่ายังไม่มีอะไรจริงๆ” อึดอัดไหมถูกจับตามองตลอด? “ก็ตราบใดที่เอ๊ะยังอยู่ในวงการบันเทิงมันคงเป็นของคู่กันเนอะ เอ๊ะก็อาศัยการทำความเข้าใจของตัวเรามากกว่าว่าเรามองเรื่องนี้ยังไง แต่เอ๊ะก็ใช้ชีวิตปกตินะ ไปดูหนังกับเพื่อนผู้ชาย 2 คนก็ไป เพราะตอนนี้ที่โสดอยู่ก็เหลือไม่กี่คน ที่เหลือก็มีลูกกันหมดแล้ว (หัวเราะ) ก็จะมีหน้าเดิมๆที่ไปกันอยู่”

เจมส์มีถามเรื่องข่าวไหม? “ถามค่ะ วันนั้นนักข่าวไปถามเขา เขาก็ถามเหมือนกันว่าคือใครยังไง ก็เล่าให้เขาฟังว่าเราเคยไปอีเว้นท์ที่มีงานไวน์ จำได้ไหม อาจจะเกิดจากตรงนั้นหรือเปล่า  แต่เจมส์ไม่ว่าอะไร เขาก็บอกว่าถ้ามีคนใหม่ที่เข้ามาก็เปิดใจนะ มันแบบไม่รู้จะปิดทำไม ตัวเขาเองก็คงเหมือนกันแหละ ต่างคนต่างเปิดใจ” เขามีแอบหวงไหม? “ไม่หวงหรอก แต่อาจจะห่วงว่าคนที่เข้ามาใหม่ดีหรือเปล่า มาหลอกเราหรือเปล่า มีแฟนอยู่แล้วไหม เขาคงห่วงในแนวนั้นมากกว่า” ตัวเอ๊ะเองเปิดใจรึยัง? “ก็ไม่ได้ปิดน่ะค่ะ แต่ถามว่าไปวิ่งตามหามันหรือเปล่าก็เปล่า ถ้าใครเข้ามาคุยแล้วรู้สึกว่าคนนี้คุยต่อได้ก็ศึกษากันไป คือจริงๆหลังจากที่เรามีความสัมพันธ์มา 12 ปีแล้วอยู่ดีๆไม่มี เอ๊ะว่ามันก็เหมือนเราเห็นอะไรชัดเจนขึ้นน่ะค่ะว่าอะไรคือสิ่งที่เรามองหา อะไรคือข้อเสียของเรา อะไรคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์มันไปได้”

หลายคนก็แซวว่าดูสดใสเหมือนเดิมไม่ได้เศร้า? “เราไม่ได้เลิกกันเพราะเราทะเลาะหรือเกลียดกัน เพราะฉะนั้นเนี่ยทุกวันนี้เอ๊ะก็ยังคุยกับเจมส์อยู่ ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉะนั้นได้เพื่อนที่ดีอีกคนนึงเพิ่มขึ้นมาด้วยซ้ำ ถามว่ามันเศร้าตรงไหน ก็ไม่ได้เศร้า เราไม่ได้ตายจากกันไปค่ะ เรายังเป็นเพื่อนที่ดีกันอยู่” คนรอบตัวมีเศร้าแทนเราไหม? “ก็มีเยอะที่เสียดายแทน (หัวเราะ)  เพราะลุ้นมานาน ก็มีให้กำลังใจเยอะมาก แต่ว่ามันเป็นการตัดสินใจของเราทั้ง 2 คน ไม่ว่าผลอะไรที่จะตามมาต้องยอมรับกับมันค่ะ บางคนก็บอกขอให้มีลมพัดหวนกลับมารักกันในที่สุด เราก็ตอบไม่ได้ค่ะว่าวันข้างหน้าคืออะไร แต่ว่า ณ วันนี้ทั้ง 2 คนก็เปิดโอกาสให้ตัวเอง ลองคบคนใหม่ๆดู บางทีไม่แน่วันหน้าไม่แน่ว่าไม่มีใครเข้ากับเราได้เท่าคนนี้ก็เป็นไปได้ หรือคนอื่นเข้ากันได้ดีกว่าก็เป็นไปได้ทั้ง 2 อย่างค่ะ

หนุ่มคนใหม่ต้องเป็นยังไง? “เอ๊ะตอบไม่ได้เหมือนกันนะคะ แต่โดยสัญชาตญาณจะรู้เอง พอคุยแล้วเราจะรู้ว่าเอ๊ะ คนนี้ท่าจะไม่ไหว หรือคนนี้ใช่อะไรแบบนี้ค่ะ” จะเป็นแนวนักธุรกิจไหม? “ไม่ได้กะเกณฑ์นะคะว่าจะต้องเป็นนักธุรกิจหรือเปล่า แต่ว่าอาจจะไม่ใช่คนในวงการ ไม่ได้เจาะจงว่าต้องทำอะไรยังไง ตัวเราเองก็อยู่ในสายธุรกิจมาตลอด ไม่ได้คาดคิดด้วยซ้ำว่าจะอยู่ในวงการมา 10 กว่าปีแบบนี้ค่ะ” ที่บ้านเป็นห่วงมากขึ้นไหม? “ไม่นะคะ ปกติเขาก็เห็นว่าเราโตแล้ว เราก็จัดการชีวิตของเราเองได้” เขาเสียดายเหมือนคนอื่นๆไหม? “ไม่หรอกค่ะ คือที่บ้านเอ๊ะค่อนข้างมีความเข้าใจสูง และมองว่าในวันข้างหน้าที่แต่งงานกันไปคือเรื่องของคน 2 คน เขาไม่ได้มาอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นเราตัดสินใจอะไร เขาก็เคารพการตัดสินใจของเราค่ะ” เข็ดหนุ่มในวงการไหม? “ไม่ได้เข็ดค่ะ มันไม่เกี่ยวกับว่าวงการนี้หรือไม่วงการ แต่ในวงการมันก็จะตามมาด้วยข่าว ด้วยการจับตามอง มีความสัมพันธ์ก็คงอยากจะมีแบบเงียบๆ ไม่ต้องมีใครรู้ (หัวเราะ)”.

Af8 อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

อ้น หนุ่มหล่อผมยาว หน้าหวาน

เรือนไทยกลางหิมะ ที่แคนาดา

สุดยอดเรือนไทยหมู่แห่งแรกในประวัติศาสตร์ Echo Valley Ranch ที่ปลูกสร้างท่ามกลางหิมะในประเทศแคนาดา  ออกแบบโดย รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี โดยดร.ภิญโญได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติในบริเวณนั้นลำเลียงขึ้น มาหล่อเลี้ยงท่อสร้างความอบอุ่นให้กับตัวอาคาร ส่วนวัสดุที่ใช้สร้างก็ใช้วัสดุในท้องถิ่นโดยประยุกต์กับวัสดุที่ใช้ สร้าง Rock Cabin ของคนพื้นเมืองเป็นพวกไม้ซีด้ากับโอ๊ค ตัวกระเบื้องเกล็ดหลังคาใช้ไม้ซีด้าทำขนาดให้เท่ากับกระเบื้องหลังคาเรือน ไทยในกรุงเทพ ในการออกแบบหลังคาและชานเรือนต้องเผื่อน้ำหนักของหิมะที่ตกลงมาทับถม จำเป็นต้องเปลี่ยนกรรมวิธีในการออกแบบโครงสร้าง ส่วนการเจาะสลักเดือยอย่างการสร้างบ้านไทยก็ต้องปรับเพราะต้องใช้ช่างฝรั่ง ปลูกสร้างทั้งหมด สิ่งที่พิเศษและมีน่าสนใจสำหรับเรือนไทยหมู่หลังนี้ คือการออกแบบที่งดงามอ่อนช้อยแบบไทยแต่ได้ประโยชน์สูงสุด บริเวณใต้ถุนยกสูงซึ่งควรเปิดโล่งก็ปิดทำเป็นห้องแช่น้ำแร่ติดกระจกเพื่อให้ สามารถชมวิวอันสวยงามในฤดูกาลต่าง ๆ ได้ ในประเทศไทยมีรีสอร์ทสไตล์คันทรี่แต่ที่แคนาดามีรีสอร์ทและสปาแบบไทย ที่ใครเห็นก็ต้องยกนิ้วให้ว่าสุดยอด

ที่มา news.voicetv

อั้ม พัชราภา กับนาฬิกาเรือนละ 150 ล้าน

ก็เป็นระดับซุปตาอั้ม พัชราภา เดินแฟชั่นโชว์นาฬิกาทั้งที่ เลยจัดเรือนที่เป็นฟินาเล่ซิย่ะ… จะมาใส่เรือนละ 7-8 แสน อันนั้นไม่ใช่อั้ม ต้องระดับ 150 ล้านขึ้นจ้า

HARRY WINSTON SIGNATURE 7 นาฬิกาประดับเพชรน้ำเอกของโลก น้ำหนักรวม 38 กะรัต แพรวพราวด้วยเพชรเจียระไนทรงกลมแบบบริลเลียนท์คัตรวม 428 เม็ด มาพร้อมกับเครื่องประดับเพชรแบบครบเครื่อง มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท

สาวรอดตาย หลังถูกผัวใจโหดแทงจับโยนหน้าผา

สาวเกาหลีรอดตายปาฏิหารย์ หลังถูกสามีใจโหดกระหน่ำแทงจับโยนหน้าผา ไม่ตายแจ้งจับสามี

สำนักข่าวต่างประเทศ (29 ก.ค.) รายงานว่าสาวเกาหลีโดนสามีกระหน่ำแทงอย่างโหดเหี้ยม จับโยนหน้าผาซ้ำแต่ไม่ตาย สาวรายชื่อได้รับการเปิดเผยเพียงนามสกุลว่า โก๊ะห์  อายุ 44 ปี พร้อมกับเปิดเผยว่า สามีเธอชื่อ ชอย วัย 56 ปี  เหตุเกิดขึ้นระหว่างที่พวกเขาไปเที่ยวพักผ่อนในจังหวัดกังวอนและไำด้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยสามีเธอกล่าวหาว่าเธอนอกใจและแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง สุดท้ายสามีบันดาลโทสะใช้มีดปลายแหลมจวกแทงมาที่หน้าอกและบริเวณท้องจำนวน 4 แผล 

จากนั้น สามียังมีสำนึกผิดพาเธอไปโรงพยาบาลแต่ระหว่างทางได้ช็อกหมดสติไป นายชอยคิดว่าเธอตายแล้ว จึงได้เปลี่ยนใจโยนร่างเธอทิ้งหน้าผาที่มีความสูงกว่า 100 เมตรเพื่ออำพรางศพ ขณะเกิดเหตุเป็นมืดไม่มีรถสัญจรผ่านไปมา  

ต่อมา นางโก๊ะห์ ได้เล่าอีกว่าหลังจากเธอถูกจับโยนลงมาจากหน้าผาแล้ว โชคดีที่ตรงจุดนั้นมีก้อนหินก้อนใหญ่ยื่นออกมาจึุงทำให้เธอร่วงลงไปแค่ 20 เมตรเท่านั้น จากนั้นโชคยังเข้าข้างเธออีกเพราะมีรถผ่านมาพอดีจึงพาตัวเธอส่งโรงพยาบาล สุดท้ายนางโก๊ะห์ จึงแจ้งความจับสามีใจโหด

ล่าสุด ตำรวจได้เข้าจับกุมสามีของนางโก๊ะห์แล้ว  ทั้งนี้ ทีมแพทย์ที่ทำการรักษานางโก๊ะห์ ยังบอกอีกว่า แผลที่เธอถูกแทงตรงหน้าอกเฉียดหัวใจไปเพียง 1 ซม.เท่านั้น

พลอย-ต้าร์ เลิกชัวร์ พบแล้วสามีในอนาคต

เอาล่ะสิ … หลังจากที่ นางเอกสาวซุปตาร์ อย่าง “พลอย เฌอมาลย์” ที่ถูกหมอดูดังออกโรงทำนายว่า ดร.หนุ่มหมาดๆ “ตาร์–นาวิน เยาวพลกุล” ไม่ใช่เนื้อคู่ งานนี้นักข่าวสายบันเทิงต้องรีบเกาะกระแสตามเอาข้อมูลมาอัพเดทเป็นการด่วนจ้า

ชมพู่ อารยา ไม่อยากเล่นเกมเล่าความหลัง ออย-น็อต

นางเอกสาวชื่อดัง “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต” ไม่แคร์หลังเซ็กซี่สาว “ออย ศรุตา” แฉผ่าน “รายการล้วงลับฯ” ว่าเคยคบหาแฟนหนุ่ม “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” มาก่อน ซึ่งเหมือนขุดเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ทั้งนี้นางเอกสาวเผยว่าตนไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่อีกฝ่ายออกมาพูด ยอมรับคนทุกมีอดีตแต่ตนก็ไม่ได้แคร์ตรงนั้น บอกต้นทุนสูงไม่อยากเล่นเกมหรือเข้าไปแลกให้เจ็บตัว

     ล่าสุดเจอสาวชมพู่ในงาน เปิดโครงการบ้านพอร์โต้ ชิโน่ ที่สยามพารากอน เห็นแว๊บๆว่าคุณแม่หนุ่มน็อตก็มาร่วมงานด้วย “พอดีว่าเจ้าของโครงการสนิทกับที่บ้านคุณแม่ เขาเลยติดต่อผ่านคุณแม่มาให้มาช่วยงานหน่อย ไม่ได้มาฟรีก็ต้องมีบ้าง วันนี้ถึงจะมีชมหรือไม่มียังไงคุณแม่ก็ต้องมาอยู่แล้ว เพราะเป็นงานของคนรู้จักกันกับทางบ้าน ส่วนเรื่องความสนิทสนมกับครอบครัวคุณน็อตก็เป็นไปตามเวลาค่ะ”

      ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ “ออย-ศรุตา” ไปออกรายการ “ล้วงลับฯ” แล้วบอกว่าเคยคบกับน็อตมาก่อน สาวชมพู่เผยว่า “ชมไม่ได้ดูแต่จะมีคนโทร.มาหาค่อนข้างเยอะพอสมควร ชมว่าเรื่องนี้ทางคุณน็อตเคยชี้แจงไปแล้วก็อยากให้มันผ่านไป คือความเป็นจริงของเรากับความจริงที่เขายืนยันเป็นคนละเรื่องราวอยู่แล้ว ฉะนั้นทางชมก็คงจะไม่พูดอะไรแล้ว สำหรับชมกับคุณน็อตเรื่องอดีตไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถามว่าเราคบกันแล้วคุยบ้างไหมว่าใครมีประสบการณ์ หรือผ่านอะไรมาบ้าง ก็ต้องมีเพราะเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาโกหก แต่ถ้าจะให้ทางคุณน็อตซึ่งเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้วออกมายืนยันอีกที ถ้าอีกฝ่ายยังยืนยันว่าจริงอยู่ชมว่าเราอยู่เฉยๆ ดีกว่าไหม ไม่อยากให้ใครมาด่าว่าทางเราไม่เป็นลูกผู้ชาย คิดว่าเกมนี้เราไม่เล่นดีกว่า”

เราเชื่อว่าน็อตเคลียร์ไปแล้วใช่ไหม
      “ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกกัน ถึงยังไงชมก็ไม่มายด์อยู่แล้วว่าความเป็นจริงจะเป็นยังไง เรารับได้อยู่แล้วเพราะเราแคร์ที่ปัจจุบันมากกว่า”

กระทบความสัมพันธ์ไหม
      “ก็ไม่อยากให้กระทบ ชมพยายามมองข้ามช็อตไปเพราะเป็นเรื่องเล็กๆ ชีวิตเราภาพรวมก็โอเคหมดแล้ว ถ้าจะมีอะไรมากวนใจบ้างนิดๆ หน่อยๆ ก็ปล่อยผ่านไปเถอะ เราไปสนุกกับชีวิตด้านอื่นดีกว่า”

มีคนถามน็อตอีกไหม
      “ก็ไม่มีใครมาถามทางเขานะ ฟีดแบ็กมาทางชมมากกว่า แต่ชมว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่าเรามีต้นทุนสูงไม่อยากจะต้องแลก เจ็บตัวอะไรค่ะ”

ดาว มยุรี คิดสั้น ลือผูกคอตาย

กระฉ่อนทั่ววงการหลังมีข่าวเม้าท์ว่า “ดาว มยุรี” นักร้องลูกทุ่งชื่อดังผูกคอตาย ด้านเพื่อนสนิท ยิ่งยง ยอดบัว-งาม ทราบข่าวจึงรีบโทร.หาทันที เจ้าตัวคอนเฟิร์มยังมีชีวิตอยู่ เผยตกใจที่ถูกลือแรงขนาดนี้

เงียบไปพักใหญ่ อยู่ดีๆ ก็มีข่าวลือว่าฆ่าตัวตาย ทำเอาแตกตื่นกันทั้งวงการ สำหรับนักร้องสาวลูกทุ่งชื่อดัง ดาวมยุรี กับข่าวลือที่ออกมาตั้งแต่ช่วงสายของวันที่ 28 ก.ค. 54 เกี่ยวกับกรณีที่มีข่าวลือหนาหู หาว่า ดาว มยุรี นักร้องสาวชื่อดัง

ฆ่าตัวตาย ด้วยการผูกคอตาย สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนในวงการลูกทุ่ง ที่โทรศัพท์เช็กข่าวกันจ้าละหวั่น งานนี้เมื่อผู้สื่อข่าวทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ติดต่อไปที่นักร้องสาวชื่อดัง ซึ่งปรากฏว่า ปลายสาย

มีเสียงผู้หญิงรับ ซึ่งก็คือ ดาว มยุรี งานนี้เมื่อเจ้าตัวรับสายก็มีทีท่าพอจะทราบวัตถุประสงค์ที่ผู้สื่อข่าวโทร.มาบ้างแล้ว

งานนี้ ดาว มยุรี รีบแจงกับสื่อทันทีว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจากเพื่อนในวงการ ที่โทรศัพท์มาถามไถ่ถึงกรณีที่มีข่าวว่าตนฆ่าตัวตาย โดยการแขวนคอ เป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนเมื่อได้ยินเสียงของตนก็รู้สึกโล่งใจ และไถ่ถามว่าข่าวดัง

กล่าวนั้นมาได้อย่างไร ซึ่งตนก็สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด จากที่เพื่อนๆ โทรศัพท์มาหาตนแล้วตนไม่รับเลยคิดกันไปหรือเปล่า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพ์ กรณีที่ตนเองไปร้องเพลง ”สุริยันจันทรา”

ของครูแก้วที่เคยเป็นผลงานของ ”แวว มยุรา” ร้องเอาไว้ เพราะพี่แวว มยุรา นั้นเสียชีวิตด้วยการผูกคอตาย ซึ่งตนสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากข้อมูลดังกล่าวหรือไม่

”ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ คือวันนี้ดาวนอน แล้วถ้าเวลาที่ดาวนอนเนี่ย ดาวจะปิดเสียงโทรศัพท์เพราะคนชอบโทร.เข้ามา ประมาณ 11 โมงเช้าดาวตื่น เพื่อนที่เป็น ผจก. เค้าโทร.เข้ามา บอกว่าดาวผูกคอตาย ซึ่งดาวก็งงนะ แต่คิดว่าข่าวนี้คงเป็น

ข่าวแค่ในวงแคบๆ คงไม่มีอะไร ดาวก็บอกไม่มี ไม่ได้ผูกคอตาย ดาวเพิ่งตื่น เพราะว่าเมื่อคืนพี่เค้าโทร.มาดาวก็ไม่รับ คงคิดว่าดาวตายแล้วประมาณนี้ พี่เค้าบอกว่าได้ยินคนพูดมาอีกที ดาวก็ถามพี่เค้าว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว แหล่งข่าวมายังไงก็

ไม่มีใครรู้ ทีนี้ พี่ยิ่งยงก็โทร.มา คนโน้นคนนี้ก็โทร.มาหาดาวเยอะมาก ซึ่งดาวก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วนะ เพราะคนรู้กันเยอะแล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อวานนี้ดาวไปช่องเคเบิลช่องนึง ไปร้องเพลง เพราะว่าวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ จะมี

พระราชทานเพลิงครูก้อง และในงานจะมีการร้องเพลงรำลึกถึงครูก้อง และหนึ่งในนั้นมี เพลงสุริยันจันทรา ที่พี่แวว มยุรา ร้องเอาไว้ค่ะ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ดาวก็ไม่เคยเอ่ยถึงพี่แววเลยนะ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอาถรรพ์หรือเปล่า เพราะพี่แววเค้าก็ผูก

คอตาย เราก็ไม่รู้ว่ามันมายังไง อาจจะเป็นเพราะเพลงของพี่แววหรือเปล่า เพราะดาวไม่ได้บอก ไม่ได้เอ่ยถึงแกเลย”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แสดงว่า เราเชื่อเรื่องอาถรรพ์ของเพลง

”ดาวก็ไม่รู้ค่ะว่ามันมาจากไหน มันไม่รู้สาเหตุ ก็เลยคิดไปว่ามันเป็นอาถรรพ์ที่มาจากเพลงหรือเปล่า เพราะว่าเพลงสุริยันจันทรา ดาวเคยร้องมานานมาก ดาวเลือกร้องเพลงนี้เพราะเป็นเพลงของครูก้องแต่ง แล้วเมื่อวานที่ดาวไปออกรายการ

เคเบิล ดาวเอาเพลงนี้ไปร้องสดกับวงกองฟาง เพื่อระลึกถึงครู เลยเลือกเพลง ”สุริยันจันทรา” มา เพราะเป็นเพลงที่พี่แวว มยุรา ร้องไว้ และเป็นเพลงที่ดัง และดาวก็อยากเอามาร้องให้แฟนเพลงฟังด้วย”

ต่อข้อถามที่ว่า นักร้องสาวช่วงนี้มีอะไรไม่สบายใจจนทำให้คนรอบข้างเข้าใจผิด และคิดไปถึงเรื่องฆ่าตัวตายหรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดาว มยุรี ตอบว่า ช่วงนี้ตนกำลังปฏิบัติธรรม ทำให้ตนกลัวการฆ่าตัวตาย และรู้ถูกรู้ผิด ดังนั้นไม่มี

เรื่องไม่สบายใจอะไรที่จำทำให้ตนคิดสั้น ถึงแม้ว่าในอดีตเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา ตนเคยคิดที่จะทำร้ายตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายมาก่อนก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเรื่องในอดีตที่ช่วงนั้นตนมีปัญหากับชีวิตแล้วหาทางออกไม่ได้

”ไม่มีค่ะ ตอนนี้ดาวปฏิบัติธรรมค่ะ ดาวไม่มีอะไรที่เป็นทุกข์เลย ยิ่งดาวได้ไปปฏิบัติธรรม ดาวยิ่งกลัวการฆ่าตัวตาย แล้วดาวจะไปทำทำไม คือดาวปฏิบัติธรรมจนรู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี จนสามารถสอนคนอื่นได้แล้วค่ะ ประมาณนี้ค่ะ แต่ดาว

ยอมรับว่าประมาณ 6- 7 ปี ที่แล้ว ดาวเคยคิดฆ่าตัวตาย ตอนนั้นดาวคิดจะกินยาหลับตาย ตอนที่เคยมีข่าวกับพ่อสมัยโน้น รับว่าเคยคิดฆ่าตัวตายค่ะ เพราะว่าน้อยใจ แต่ตอนนี้ไม่มีเข้ามาในความคิดเลย ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอนค่ะ ยืนยัน

ว่าข่าวลือไม่ใช่เรื่องจริง (หัวเราะ) ดาวยังมีชีวิตอยู่ค่ะ ชีวิตดาวก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ดาวยังสบายดีค่ะ”

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามไปยังเพื่อนนักร้องหนุ่มรุ่นพี่คนสนิท ยิ่งยง ยอดบัวงาม ถึงข่าวคราวน่าตกใจกับกรณีนี้ ซึ่ง ”ยิ่งยง” กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่าตนนั้นทราบข่าวจากฮาย อาภาพร นครสวรรค์ และพี่ชมพู ฟรุ๊ตตี้ ที่โทร.มาสอบ

ถาม ซึ่งเมื่อตนทราบเรื่องจึงได้โทร.ไปหา ดาว มยุรี เพื่อสอบถามถึงข่าวคราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทราบเรื่องเช่นกัน ตนคิดว่าน่าจะเกิดการเข้าใจผิดอะไรสักอย่างมากกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอีกสาเหตุที่อาจเป็นชนวนของข่าวที่เกิดขึ้น โดยได้รับการบอกเล่าของนางวัชรีวรรณ สุภาพ ผจก.วงครอบครัวเบญจวัส และผู้ดูแลงานให้กับนักร้องลูกทุ่งสาว อาภาพร นครสวรรค์ กล่าวถึงข่าวลือชวนตกใจของคนวง

การลูกทุ่งข่าวนี้ว่า น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดกันในโต๊ะกินข้าวที่ร้านอาหาร เพราะพวกตนเวลาใครมาช้ามาสาย ก็มักจะตะโกนพูดกันว่าคนนั้น ”ตายแล้ว” ซึ่งเมื่อวาน ดาว มยุรี เขามาช้า จึงทำให้เด็กเสิร์ฟในร้านหรือใครก็

ตามที่ได้ยินแล้วไม่เข้าใจอาจนำไปพูดต่อ จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ซึ่งตนก็งงกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อช่วงเช้าก้มีคนโทร.มาถามข่าวลือเรื่องนี้กับตนเยอะมาก

”คือเมื่อวานนี้นัดทานข้าวกันตอน 6 โมงเย็น มีพี่ๆ น้องๆ ในวงการไปหลายคน เพื่อไปประชุมงานกัน ตัวดาวเอง เขาก็จะเอาผลงานใหม่เขามาเสนอกับทางทีมงาน *4985 ด้วย พี่กินข้าวเสร็จประมาณ 2 ทุ่ม ดาวเขาก็ยังทานข้าวที่นั่นต่อนะ

อย่างที่เราคุยกันคำพูดของพี่ฮายเขา เวลาคนไหนไม่มาก็จะแบบ ”ยิ่งยงตายแล้ว” อะไรอย่างเนี่ย ”ดาว มยุรีตายแล้ว” เหมือนเราคุยกัน อย่างเช่น ”น้อย นพเก้า” พี่น้อยไปไหน พี่น้อยทำไมไม่มา ”พี่น้อยตายแล้ว” เขาก็คงจะได้ยินอย่างนี้

แล้วก็เลยตีความกัน บวกกับไปใส่ไข่อีกหน่อย ก็เลยออกมาเป็นข่าวอย่างนี้”

รายการ ภาษา PLAZA ตอนที่27

เต่าเผือก กระดองคล้าย พระสมเด็จฯ 9 ชั้น

ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี แตกตื่นเมื่อทราบข่าวพบเต่าเผือก จึงแห่ไปดูที่ ที่บ้านสมอทอง ต.สมองทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โดยบนกระดองเต่ามีลวดลายคล้ายพระพุทธรูป รุ่นสมเด็จ มีฐาน 8 และ 9 ชั้น 6 องค์
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2554 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ว่าพบเต่าลักษณะประหลาด ที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงไว้ ที่บ้านสมอทอง ต.สมองทอง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบนางปรีดา แก้วยาว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และชาวบ้านจำนวนหนึ่งต่างมุงดูเต่าสีเหลืองทอง อายุประมาณ 10 ปี น้ำหนักประมาณ 3 กก. ด้วยความแปลกประหลาดโดยทั้งหมดต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยเห็นเต่า ที่มีสีเช่นนี้มาก่อน นอกจากนี้ยังพบว่า บนกระดองเต่า ยังมีลวดลายคล้ายพระพุทธรูป รุ่นสมเด็จ มีฐาน 8 และ 9 ชั้น จำนวน 6 องค์ เรียงรายอยู่รอบ ๆ กระดอง
นอกจากนั้นเต่าตัวดังกล่าวยังไม่มีอาการหวาดกลัวผู้คนตามนิสัย ของเต่า ที่เมื่อเกิดการหวาดกลัวก็จะหดหัวเข้าไปในกระดอง แต่กลับชูคอทักทายผู้ที่ไปมุงดู ซึ่งชาวบ้านที่มาดูต่างชื่นชม และทึ่งในความสวยงามของเต่าตัวนี้ บางคนก็อธิษฐาน ขอพร ให้โชคดีมีโชคมีลาภ บางคนก็อดไม่ได้ ที่จะเพ่งมองหาตัวเลข ในกระตองเต่า บางคนก็เลขที่นับได้จากลวดลายคล้ายพระพุทธรูปสมเด็จ บนหลังเต่าที่มี 8 , 9 ชั้น และจำนวน 6 องค์ และเลข 21 เลขที่บ้านดังกล่าว เป็นเลข 896 และ21 เพื่อนำไปซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล และหวยใต้ดินเพื่อเสี่ยงโชคกันจำนวนมาก

นางปรีดา เจ้าของเต่า กล่าวว่า ตนและสามีคือ นายชัยศักดิ์ แก้วยาว มีอาชีพรับจ้างทั่วไป โดยก่อนหน้าที่จะได้เต่าตัวนี้มาเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตนและ สามีไปรับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งตนก็ไม่ว่าอยู่ในพื้นที่ใด ทราบเพียงว่าอยู่ติดกับวัด ระหว่างที่ตนและสามีช่วยกันถางหญ้าเพื่อปรับที่ดิน ก็พบเต่าตัวดังกล่าว แรกสุดสามีกับเพื่อนคนงานจะเผาเต่าตัวดังกล่าวเพื่อปรุงเป็นอาหาร แต่ตนรู้สึกสงสารและถูกชะตากับมัน จึงได้ขอจากสามีและเพื่อนคนงาน นำมาเลี้ยงดู โดยตั้งชื่อว่า เจ้าเผือก ตามลักษณะของมัน และจนถึงขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่า เจ้าเผือกเป็นเต่าสายพันธุ์ใดเนื่องจากไม่เคยเห็นมาก่อน รวมทั้งได้พยายามสอบถามเพื่อนบ้านและผู้ที่เดินทางมาดูต่างก็ไม่เคยมีใครเคย เห็นมาก่อน

เจ้าของเต่าตัวดังกล่าว กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนนำเต่าตัวดังกล่าวมาเลี้ยงดู รู้สึกว่าการดำรงชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น การทำมาหากินก็คล่องขึ้น แต่ตนยังไม่เคยกราบไหว้เพื่อขอเลขเด็ดแต่อย่างไร คงมีเพียงบุตรสาวที่ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัวเมื่องวดวันที่ 16 ก.ค.54 ที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังเคยมีผู้มาขอนำเจ้าเผือกไปเพื่อทำพิธีขอหวย แต่ตนไม่อนุญาต เพราะเห็นว่าเป็นการทรมานสัตว์มากกว่า
ที่มา  http://www.thairath.co.th

ทูน หิรัญทรัพย์ ตาขวาบอดสนิทแล้ว เสี่ยงอีกต้อหินลามตาซ้าย

อึ้ง! นักแสดงรุ่นเก๋า ”ทูน หิรัญทรัพย์” ตาขวาบอดสนิทแล้ว หลังรักษาโรคต้อหินมาสักพักหนึ่ง รับแพทย์บอกอาจจะมีลามไปตาข้างซ้ายได้ เผยถึงเสียตาไปข้างหนึ่งแต่ไม่ท้อ ตอนนี้พยายามดูแลตัวเองด้วยการใส่แว่นตาดำและเลี่ยงแสง แฟลช

 
หลังจากที่เคยมีกระแสข่าวว่าอดีตดาราชื่อดังมากฝีมืออย่าง ”ทูน หิรัญทรัพย์” กำลังรักษาโรคร้ายที่เป็นต้อหินที่ดวงตาข้างขวาเกาะกินม่านตาไปร่วม 90% ซึ่งทำให้ดวงตาข้างขวามองเห็นได้เพียง 10% เท่านั้น แต่ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อ ข่าวได้รายงานว่าปัจจุบันตาข้างขวาของพระเอกรุ่นเก๋า ”ทูน หิรัญทรัพย์” ได้บอดสนิทเสียแล้ว เพราะโรคต้อหินที่เกาะกินจนเรื้อรังอยู่นั่นเอง
 
โดยผู้สื่อข่าวได้รายงานต่อไปว่า ถึงแม้พระเอกชื่อดัง ”ทูน หิรัญทรัพย์” จะต้องประสบเคราะห์กรรมตาขวาบอดสนิทเพราะต้อหิน แต่กำลังใจของอดีตพระเอกชื่อดังเต็มเปี่ยมและไม่ท้อ ถึงแม้ว่าทีมแพทย์ที่รักษาดวงตาของอดีตพระเอก ”ทูน หิรัญทรัพย์” จะบอกว่าอาจจะมีการลุกลามไปที่ดวงตาข้างซ้ายด้วยนั้น
 
อย่างไรก็ตาม อดีตพระเอกมากฝีมือ ”ทูน หิรัญทรัพย์” ก็ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนด้วยว่า ตอนนี้ตนเองมีความรู้สึกรักดวงตาข้างซ้ายมากยิ่งขึ้น และก็ได้ดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์, สวมแว่นตาดำทุก

ครั้งเพื่อเลี่ยงแสงแดด และพยายามเลี่ยงแสงแฟลชอีกด้วย แต่ถึงแม้ว่าจะสูญเสียงดวงตาข้างขวาไปแล้วก็ยังไม่ท้อและจะเดินหน้าทำงานต่อไปเหมือนเดิม พร้อมกับขอบคุณทุกกำลังใจที่มีเข้ามาให้ตนอย่างมากอีกด้วย

ที่มา : www.siamdara.com

ยูมิน ทวิกานต์ โกยเต้าประชด ฟิล์ม

หลังออกมาบีบน้ำตาแฉเคยคั่วนักร้องหน้าเกาหลี ฟิล์ม รัฐภูมิ ทำให้ชื่อสาววัยทีน ยูมิน ทวิกานต์ กุลชล กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วบ้านทั่วเมืองในนาม กิ๊กนัมเบอร์ล่าสุด ฟิล์ม รัฐภูมิ แม้ฝ่ายชายปากแข็งบอกเป็นแค่พี่น้อง ทำเอาสาวยูมิน ช้ำอกช้ำใจถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวัน ท้ายที่สุดข่าวค(ร)าวก็เงียบหายไปตามระเบียบ

แต่ดูเหมือน ยูมิน ทวิกานต์ เศร้าไม่นาน she ลุกขึ้นมาเปลี่ยนลุคส์ตัวเองใหม่มันซะเลย เอ๊ะ….ว่าแต่เล่น โกยเต้าล้นทะลัก ยั่วใจเสือ สิงห์ กระทิง โสด ขนาดนี้ตั้งใจประชดใครบางคนอ่ะเปล่า!!!